Thursday, October 18, 2012

เอเมอรี่ โอลีโอเคมิคอล ลงทุนเพิ่ม 50 ล้านเหรียญ




เอเมอรี่ โอลีโอเคมิคอล ลงทุนเพิ่ม 50 ล้านเหรียญฯ 
ขยายการผลิตโรงงานในอเมริกา
เอเมอรี่ โอลีโอเคมิคอล (Emery Oleochemicals) บริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่ม พีทีที โกลบอล                   เคมิคอล  และกลุ่ม ไซม์ ดาร์บี้ (Sime Darby) ประกาศลงทุนขยายสายการผลิตไบโอ-โพลิออล (Polyols) เคมีภัณฑ์พิเศษจากวัตถุดิบธรรมชาติ ที่โรงงานซินซินนาติ (Cincinnati) มลรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ด้วยเงินลงทุน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท  เป้าหมายดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปลายปี 2557
นายอนนต์  สิริแสงทักษิณ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Chemicals) ในส่วนของบริษัท เอเมอรี่   โอลีโอเคมิคอล (Emery Oleochemicals) จะดำเนินการขยายการลงทุนเพื่อผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษจากวัตถุดิบธรรมชาติ โดยเป็นการขยายสายการผลิตไบโอ-โพลิออล (Bio-Polyols) ณ โรงงานในเมืองซินซินนาติ (Cincinnati) มลรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะใช้เงินลงทุน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท การลงทุนนี้ เพื่อพัฒนาเคมีภัณฑ์จากธรรมชาติให้มีคุณภาพสูง เป็นเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (High-performance bio-based Polyols products) ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเอเมอรี่ โอลีโอเคมิคอล ทั้งด้านเทคโนโลยี สายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงการสร้างรายได้เพิ่ม  การลงทุนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ขยายธุรกิจของบริษัทฯ ไปสู่ธุรกิจปลายน้ำซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์โพลียูรีเทน และกรีนเคมิคอล เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจอย่างยั่งยืน       โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาต่อยอดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป ซึ่ง PTTGC       ในฐานะหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักจึงสนับสนุนการลงทุนดังกล่าวของเอเมอรี่ โอลีโอเคมิคอล
ทางด้าน ดร. คงกระพัน  อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) กลุ่มเอเมอรี่ โอลีโอเคมิคอล             กล่าวว่า “การขยายการผลิตไบโอ-โพลิออลคุณภาพสูงจากวัตถุดิบธรรมชาติที่โรงงานในเมืองซินซินนาติ       เพื่อรองรับความต้องการในตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ในครัวเรือน และอุตสาหกรรมอื่นๆ  โดยเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่สนับสนุนการเติบโตสู่ระดับสากล บริษัทฯ มองหาลู่ทางในตลาดใหม่ๆ และขยายสายการผลิตใหม่ที่เน้นการเพิ่มคุณค่าให้กับวัตถุดิบที่มีอยู่ รวมทั้งการเพิ่มศักยภาพทางเทคโนโลยีและการวิจัยพัฒนา เป็นการต่อยอดนวัตกรรมเพื่อการผลิตสินค้าคุณภาพให้แก่ลูกค้า ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ประมาณปลายปี 2557”                         
บริษัท เอเมอรี่ โอลีโอเคมิคอล เป็นบริษัทร่วมทุน ในสัดส่วน 50:50 ระหว่างกลุ่ม พีทีที โกลบอล           เคมิคอล ผู้นำธุรกิจเคมีภัณฑ์ของประเทศไทย และ กลุ่ม Sime Darby ผู้นำธุรกิจปาล์มออยล์ของมาเลเซีย โดยในปี 2554 บริษัท เอเมอรี่ โอลีโอเคมิคอล มีรายได้รวม 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นบริษัทชั้นนำด้านการผลิตเคมีภัณฑ์จากธรรมชาติ (Natural-Based Chemicals) ที่ใช้วัตถุดิบจากไขสัตว์และน้ำมันปาล์ม ซึ่งนอกจากการผลิตเคมีภัณฑ์พื้นฐานแล้ว ยังได้ขยายธุรกิจไปในกลุ่มเคมีภัณฑ์เพิ่มมูลค่าแก่วัตถุดิบจากธรรมชาติ ได้แก่ สารเติมแต่งพลาสติก (Green Plastics Additives) สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล เครื่องใช้ภายในบ้าน / โอโซนแอซิด (Ozone Acid) และ ออยล์ฟิลด์ เคมิคอล (Oilfield Chemicals) ที่ใช้ในการสำรวจขุดเจาะน้ำมัน สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชีวภาพพื้นฐาน ซึ่งบริษัท เอเมอรี่ โอลีโอเคมิคอล  ดำเนินการ ได้แก่ แฟตตี้                แอซิด (Fatty Acids)  แฟตตี้แอลกอฮอล์ (Fatty Alcohol )  กลีเซอรีน (Glycerin)  และ ไตรอะซิติน (Triacetin)  โดยปัจจุบันมีฐานการผลิตอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  อเมริกาเหนือ และยุโรป โดยมีเครือข่ายการตลาดครอบคลุมกว่า 50 ประเทศทั่วโลก 
ดร. คงกระพัน กล่าวว่า การขยายการลงทุนในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากชุมชนซินซินเนติ  สหรัฐอเมริกา รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากองค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์ที่ดูแลด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของ        มลรัฐโอไฮโอ ซึ่งเห็นว่า การขยายการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์นี้ จะช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ปัจจุบัน บริษัท Emery  Oleochemicals  มีการจ้างพนักงานกว่า 1,000 คน ภายใต้เครือข่ายธุรกิจที่กระจายอยู่ทั่วโลก โดยมีความพร้อมในด้านประสบการณ์ ทีมงานนักวิจัย และเทคโนโลยีคุณภาพ ได้สร้างคู่ค้าทางธุรกิจ บริษัทยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในการผลิตเคมีภัณฑ์จากวัตถุดิบธรรมชาติ และพร้อมสู่การเติบโตในระดับสากล
พีทีที โกลบอล เคมิคอล เป็นแกนนำของธุรกิจเคมีภัณฑ์ (Chemical Flagship) ของ ปตท. มีกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์  ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ (Polymers) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เอทิลีนออกไซด์                     (EO-Based Performance) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Chemicals) และกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ( High Volume Specialties)

 -------------------------------------------------------------- 

0 comments: