Wednesday, April 30, 2014

กปน. MOU โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

กปน. MOU โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สนับสนุนการจัดน้ำประปาในกรณีมีเหตุฉุกเฉิน
                นางสาวสุรีย์ ส.ศรีสุวรรณ ผู้ช่วยผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) (ที่ 3 จากซ้าย) และ       นายกมลศักดิ์ เรืองเจริญรุ่ง ผู้อำนวยการด้านปฏิบัติการ โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ (กลาง) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การสนับสนุนการจัดส่งน้ำประปาในกรณีมีเหตุจำเป็น หรือมีเหตุฉุกเฉิน   เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการบริการสุขภาพตลอดจนสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ว่าจะมีน้ำประปาบริการสำหรับผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง
*************************************
กองเผยแพร่ข่าว  ฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทร. 0 2504 0123 ต่อ 1110 , 1111

Thursday, April 10, 2014

กรมการแพทย์เปิดตัว 1415 สายตรงโรงพยาบาลเด็ก


กรมการแพทย์เปิดตัว 1415 สายตรงโรงพยาบาลเด็ก
9 เมษายน 2557 วันนี้ ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วย รศ.คลินิก พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และนายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ร่วมแถลงข่าว 1415 สายตรงโรงพยาบาลเด็ก (Children’s Hospital Call Center)
นายแพทย์สุพรรณ  ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ มีนโยบายในการสนับสนุนหน่วยงานภายใต้สังกัด นำความรู้ ความชำนาญไปแก้ไขปัญหาสุขภาพสำคัญของประชาชน สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เป็นสถาบันเฉพาะทางที่ดูแลรักษาปัญหาสุขภาพของเด็ก มีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพเด็กทั้งโรคทั่วไป และโรคที่ยุ่งยากซับซ้อน การพัฒนาระบบบริการโดยการนำเทคโนโลยีการสื่อสารมาใช้ในครั้งนี้ จึงเป็นการขยายบริการส่งต่อองค์ความรู้สู่กลุ่มเป้าหมายที่รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 1415 สายตรงโรงพยาบาลเด็ก
การดำเนินการได้รับความ ร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนหลายภาคส่วน ได้แก่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค สนับสนุนด้านที่ปรึกษาและงบประมาณส่วนใหญ่ในการวางระบบ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จัดสรรเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษ 1415 นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือจากมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และยูนิเซฟ ประเทศไทย การพัฒนาบริการในครั้งนี้ ถือเป็นการนำจุดแข็งของแต่ละภาคส่วนมาร่วมกันในการแก้ไขปัญหาสุขภาพของเด็กไทยนายแพทย์สุพรรณกล่าว
รศ.คลินิก พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เป็นสถานบริการสุขภาพในระดับตติยภูมิ ดูแลรักษาผู้ป่วยเด็กเฉพาะทางที่ยุ่งยาก ซับซ้อน โดยรับส่งต่อผู้ป่วยจากสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ผู้ป่วยนอกกว่า 300,000 ราย/ปี ผู้ป่วยในกว่า 17,000 ราย/ปี มีบริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านสุขภาพเด็กทางโทรศัพท์มากว่า 10 ปี โดยใช้เลขหมายโทรศัพท์ 9 และ 10 หลัก มากกว่า 80 เลขหมาย  มีผู้ใช้บริการเกือบ 100,000 ครั้ง/ปี จากการบริการพบว่า เลขหมายที่หลากหลาย ยากแก่การจดจำ และไม่สะดวก ระบบไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ จึงได้มีพัฒนาโดยรวมกว่า 80 เลขหมาย สู่เลขหมายพิเศษ 1415 สายตรงโรงพยาบาลเด็ก (Children’s Hospital Call Center) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความ สะดวกให้ผู้รับบริการ ลดการเสียชีวิตและลดความรุนแรงของโรค เป็นหน่วยรับแจ้งเหตุโรคที่สำคัญๆ โรคอุบัติใหม่ และรับผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน ตลอดจนรองรับการบริการที่จะก้าวสู่อาเซียนในอนาคต
ประโยชน์ ที่เกิดจากการให้บริการทางโทรศัพท์ สามารถลดความยากลำบากในการเดินทาง ลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง เป็นที่พึ่งในการดูแลเบื้องต้นเพื่อลดภาวะวิกฤตก่อนผู้ป่วยมาพบแพทย์ เช่น สายด่วนไข้เลือดออกสามารถช่วยชีวิตเด็กได้ถึงกว่า 95% หมายเลข 1415 สายตรงโรงพยาบาลเด็ก ได้ทดลองเปิดบริการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2556 มีผู้รับบริการเดือนละประมาณ 24,000 ครั้ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกเดือน สะท้อนให้เห็นว่าสามารถตอบสนองต่อความต้องการ เป็นที่พึ่งของผู้ปกครองในการดูแลสุขภาพ และช่วยชีวิตเด็กในภาวะวิกฤตได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ ได้เปิดบริการโดยให้คำปรึกษาในศูนย์ความเป็นเลิศไข้เลือดออก ศูนย์ความเป็นเลิศทารกแรกเกิด ศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วย ปัญหาสุขภาพเด็กทั่วไปและโรคซับซ้อน คลินิกนมแม่ ศูนย์การรับบริจาค ข้อมูลทั่วไป และการนัดหมายตรวจโรค เป็นต้น ทั้งนี้ ในอนาคตมีแผนพัฒนาให้ครอบคลุมในทุกศูนย์ความเป็นเลิศ เพิ่มบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางการรักษาในโรคที่ยุ่งยาก ซับซ้อน รวมทั้งโรคอุบัติใหม่ และรองรับการก้าวสู่อาเซียนต่อไป
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทค ได้ประกาศกลยุทธ์ Internet for All มุ่ง ใช้เทคโนโลยีสร้างโอกาสให้คนไทยทั่วประเทศเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ และบริการสาธารณะด้านต่างๆ อย่างเท่าเทียมกัน จากการที่บริษัทอยู่ในธุรกิจบริการ มีประสบการณ์ในการดูแลลูกค้ากว่า 28 ล้าน ราย จึงมุ่งมั่นที่จะนำบริการระดับเวิลด์คลาสของดีแทค คอลล์ เซ็นเตอร์ มาร่วมพัฒนาและปรับปรุงคอลล์ เซ็นเตอร์ของโรงพยาบาลเด็กให้ทันสมัย สามารถรองรับสายที่โทรเข้ามาเป็นจำนวนมากในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ทำการออกแบบระบบที่เหมาะสม พร้อมสำหรับการขยายบริการในอนาคต ทั้งระบบ IVR (Interactive Voice Response) ระบบบันทึกเสียงสนทนา (Voice Logger) IP Gateway และตู้สาขาโทรศัพท์ PABX (Private Automatic Branch Exchange) รวม ถึงการจัดอบรมและให้คำปรึกษาด้านเทคนิคแก่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล โดยผู้เชี่ยวชาญจากดีแทค คอลล์ เซ็นเตอร์ ซึ่งจะช่วยพัฒนาให้การเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขเป็นไปโดยสะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ หมายเลข 1415 ยังเชื่อมต่อกับ *1515 ครอบครัวผูกพัน ที่เปิดบริการส่งข้อความที่เป็นประโยชน์ในการดูแลเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงอายุ 2 ปี ให้กับผู้สมัครรับ SMS ทุกวันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยผู้ที่โทรมายังหมายเลข *1515 สามารถเลือกกด 0 เพื่อ ติดต่อคอลล์ เซ็นเตอร์ของโรงพยาบาลเด็กได้ เป็นการส่งเสริมและพัฒนาระบบการบริการดูแลรักษาสุขภาพเด็กอย่างครบวงจร เพื่อมอบพัฒนาการที่ดีที่สุดให้กับเด็กไทย ซึ่งจะเป็นพลังที่สำคัญของประเทศต่อไปในอนาคตนายจอนกล่าวสรุป

Tuesday, April 8, 2014

กปน. เตรียมทุ่มเงินกว่า 35,000 ล้าน



ต่อยอดศตวรรษใหม่ 
 กปน. เตรียมทุ่มเงินกว่า 35,000 ล้าน
พัฒนาเสถียรภาพระบบประปา
อย่างเพียงพอ มั่นคง และยั่งยืน

          14 พฤศจิกายน 2557 ที่จะถึงนี้ ก็จะครบรอบ
100 ปี ที่ “กิจการประปาไทย” ได้ถือกำเนิดขึ้นตาม
พระราชประสงค์ และพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีพระวิสัยทัศน์กว้างไกล ทำให้ประชาชนชาวไทยได้เข้าถึงบริการน้ำประปา
ที่สะอาด และมีคุณภาพมาจวบจนวันนี้เป็นเวลานานนับศตวรรษ จึงเป็นภารกิจอันสำคัญยิ่งของ
การประปานครหลวง หรือ กปน. ที่ต้องต่อยอดและพัฒนากิจการอย่างต่อเนื่อง
ให้สอดรับกับสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้มีน้ำประปาคุณภาพมาตรฐานสากล ให้บริการประชาชนครอบคลุมทุกเขตพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งระบบประปามีเสถียรภาพมั่นคงยั่งยืนต่อไปในอนาคต
          นายยงยุทธ์ อภัยจิรรัตน์ รองผู้ว่าการ กปน. (แผนและพัฒนา) กล่าวว่า
ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน ประกอบกับการที่สมดุลธรรมชาติถูกทำลาย ส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกเป็นอย่างมาก ทั้งอากาศ น้ำ ป่าไม้ ล้วนเสื่อมโทรมลง  ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรม
และการขยายตัวอย่างรวดเร็วของชุมชนเมือง กลับสวนทางกับทรัพยากรธรรมชาติสำคัญที่ด้อยคุณภาพลง หรือแม้แต่ใกล้จะหมดลงทุกวัน
...ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่ กปน. นำน้ำดิบมาผลิตเป็นน้ำประปา เคยมีคุณภาพดีกว่านี้มาก แต่ต้องผ่านทั้งพื้นที่ภาคเกษตรกรรม และการใช้ภาคครัวเรือนมาตลอดเส้นทางถึง 22 จังหวัดกว่าจะมาถึงจุดที่ กปน. สูบน้ำดิบขึ้นมาเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิต ซึ่งหลายครั้งที่มีปริมาณคงเหลือน้อยมาก
แม้กรมชลประทานจะพยายามจัดสรรน้ำแก่ทุกภาคส่วนให้เหมาะสมด้วยความยากลำบากแล้วก็ตาม อีกทั้งประเทศไทยไม่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่สำหรับการผลิตน้ำประปาโดยเฉพาะเหมือนเช่นในต่างประเทศ เมื่อเทียบกับสภาพแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน กปน. จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุน
ทั้งระบบการผลิต ระบบการใช้สารเคมีเพื่อบำบัด และระบบสูบส่ง-สูบจ่ายน้ำ
ให้ได้น้ำประปาคุณภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานน้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก บริการแก่ประชาชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบกว่า 10 ล้านชีวิตอย่างต่อเนื่อง
          จากปัญหาดังกล่าว กปน. มิได้นิ่งนอนใจ จึงได้เร่งดำเนินงานตามโครงการปรับปรุงกิจการประปา
แผนหลัก ครั้งที่ 9 ภายใต้กรอบความคิดในการสร้างความเพียงพอ ความมั่นคง ความยั่งยืน และเพิ่มเสถียรภาพให้แก่ระบบประปา เพื่อที่จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ปริมาณความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นทุกปี อันเนื่องมาจากอัตราการเจริญเติบโตของชุมชนเมือง การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชน อาทิ รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ กระจายตัวครอบคลุมในหลายพื้นที่มากขึ้น พร้อมๆ กับโครงการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ ทั้งหมู่บ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม เกิดขึ้นมากมาย ดังนั้น เพื่อรองรับการให้บริการที่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว กปน.

จึงตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 35,000 ล้านบาท ในการลงทุนประกอบด้วย Sการปรับปรุงและขยายกำลังการผลิตโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ เพื่อสร้างเสถียรภาพในการให้บริการน้ำประปารองรับอัตราการเจริญเติบโตของชุมชนเมือง
ฝั่งตะวันตกตอนบน อาทิ ย่านบางบัวทอง นนทบุรี มหาสวัสดิ์ และไทรน้อย ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ใช้งบประมาณ 7,459 ล้านบาท
Sการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำแห่งใหม่ (ไทรน้อย) ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการนำโอโซนมาใช้ในกระบวนการผลิตน้ำประปา ด้วยกำลังการผลิตน้ำเต็มที่ 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน อันจะเป็นการยกระดับมาตรฐานคุณภาพน้ำประปาให้สูงยิ่งขึ้น สร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้น้ำ
ใช้งบประมาณ 6,187
ล้านบาท Sการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำเพิ่มอีก 3 เส้นทาง รองรับปริมาณน้ำประปาที่เพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิต และเสริมเสถียรภาพทั้งด้านปริมาณ และแรงดันในการสูบจ่ายน้ำให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ของโครงข่ายระบบท่อประปาทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ด้วยงบประมาณ 12,202 ล้านบาท Sการก่อสร้างสถานีสูบจ่ายน้ำและถังเก็บน้ำใสพร้อมงานที่เกี่ยวข้อง งบประมาณ 10,689 ล้านบาท Sระบบอื่น ๆ
(งานสนับสนุน) 4
,477 ล้านบาท โดยทั้งหมดนี้ มีระยะเวลาดำเนินงานทั้งสิ้น 7 ปี (2558-2564) รวมงบประมาณกว่า 35,312 ล้านบาท

          นายยงยุทธ์ กล่าวต่อไปอีกว่า โครงสร้างพื้นฐานของ กปน. มีอายุการใช้งานมาเป็นเวลานานมากกว่า 30 ปี
ด้วยลักษณะการใช้งานเต็มพิกัดความสามารถอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังไม่สามารถหยุดโรงงานผลิตน้ำเพื่อปิดซ่อมดูแลรักษาให้มีการใช้งานที่มีอายุยาวนานขึ้นได้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดกรณีวิกฤติฉุกเฉินหรือเหตุจำเป็นต่างๆ
ประกอบกับในอดีตที่ผ่านมา มีปรากฏการณ์หลายอย่างเกิดขึ้น ทั้งภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์เอลนิโญ่ ลานินญา วิกฤติอุทกภัย ตลอดจนเหตุการณ์ล่าสุด คือ การรุกล้ำของปริมาณน้ำเค็มจากภาวะน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงหน้าแล้งที่มาเร็วกว่าปกติ
ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตน้ำประปาของโรงงานผลิตน้ำทั้งสิ้น
  และเป็นที่ทราบกันดีว่าไม่มีสิ่งใดที่จะฝืนหรือคาดการณ์ธรรมชาติได้เสมอไป เช่นเดียวกับการที่ไม่สามารถแก้ไขสมดุลธรรมชาติที่ถูกทำลายไปแล้วได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หลังจากที่ กปน. ได้ทำการศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนมาเป็นเวลาหลายปี โครงการฯ ดังกล่าว จึงถือว่า

มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งยวด เพื่อที่จะเร่งดำเนินการป้องกันปัญหาต่อคุณภาพน้ำประปาที่อาจเกิดขึ้น
          ด้านแหล่งเงินทุนโครงการ กปน. กำลังวิเคราะห์ทางเลือกระหว่างใช้เงินรายได้องค์กรรวมกับเงินกู้

ในประเทศ หรือจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) เนื่องจาก กปน. เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ จำเป็นต้องรับผิดชอบเงินลงทุนขององค์กรเองทั้งหมด แม้จะมีข้อจำกัดของศักยภาพทางการเงินสำหรับ
การลงทุนขนาดใหญ่ คือ หากตัดสินใจลงทุนไปแล้ว ทำให้ต้นทุนการผลิตของ กปน. ต้องเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว รวมทั้ง ค่า
EP หรือกำไรเชิงเศรษฐศาสตร์ก็จะติดลบหลายปีตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ


 ดังนั้น ด้วยพันธกิจของ กปน. ในการ “ให้บริการงานประปาที่มีมาตรฐานคุณภาพ อย่างมั่นคง ทั่วถึง เพียงพอ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย และบุคลากรมืออาชีพ เพื่อสร้างความพึงพอใจ และความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้บริการ” จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริหาร พนักงาน และผู้ปฏิบัติงาน กปน. ทุกคนยึดมั่น
และพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ มาโดยตลอด การลงทุนในโครงการฯ นี้

เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการยักษ์ใหญ่ทั้งหมดของ กปน. ที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติมากกว่าผลกำไร เพื่อยกระดับการบริการน้ำประปาแก่ประชาชนให้มากยิ่งขึ้น สร้างความพึงพอใจ เติมเต็มคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และก้าวสู่การเป็นองค์กรด้านสาธารณูปโภคระดับแนวหน้า มีความพร้อมรองรับในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือ AEC ในอนาคตอันใกล้นี้ต่อไป และเป็น “ประปาเพื่อประชาชน” ที่น้ำประปา

ทุกหยดคุณภาพหล่อเลี้ยงทุกชีวิตในสังคมไทยอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด สมดังพระราชปณิธานของรัชกาลที่ 5

******************************

กองเผยแพร่ข่าว  ฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทร. 0 2504 0123 ต่อ 1110 , 1111
โทรสาร. 0 2503 9563

Friday, April 4, 2014

ขายบ้านเดี่ยว ด่วน ที่ภูเก็ต


ขายบ้าน  ด่วน 
 บ้านเดี่ยว  2 ชั้น  3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
เนื้อที่ 126 ตรว.
ราคา 14 ล้านบาท
ในหใู่บ้านเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด  สภาพแวดล้อมเยี่ยม
หมู่บ้านอนุภาษกอล์ฟวิว  อ.กระทู้ ภูเก็ต
อยู่ห่างจากสนามกอล์ฟ ประมาณ 100 เมตร
ฝั่งตรงข้ามเป็นมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (วิทยาเขตภูเก็ต)
 บรรยากาศดี  สภาพแวดล้อมเป็นธรรมชาติดีมาก 
ใกล้อ่างเก็บน้ำ ใกล้สนามกอล์ฟ
สนใจกรุณา ติดต่อ ทางอีเมล (เจ้าของอยู่ต่างประเทศ)
คุณเล็ก
paulrose01@optusnet.com.au
หรือโทร.ประเทศออสเตรเลีย  61732645614,61479122661







-------------------